по Aim Jubpoi 6 лет назад
550
Больше похоже на это
ไม่เหมาะกับการส่งข้อมูลครั้งละมากๆ
หากสายส่งข้อมูลขาดจะส่งผลกระทบต่อเครือข่าย
ต้องมีกลไกควบคุมการส่งข้อมูล
สามารถเพิ่มโหนดได้ทันที
จำนวนโหนดมากต้องใช้สายมากขึ้น
ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่
ความเร็วสูง
มีความปลอดภัยในข้อมูล
เสียเวลาจากการที่รีพีตเตอร์(Repeater) จะต้องทำการตรวจสอบตำแหน่งปลายทางของข้อมูลทุกข้อมูล
ถ้ามีเครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสียหายข้อมูลจะไม่สามารถส่งผ่านไปยังเครื่องต่อ ๆ ไปได้
ส่งข้อมูลได้อย่างทัดเทียมกัน
ไม่มีการชนกันของสัญญาณ
ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้หลายๆ เครื่องพร้อมๆ กัน
มีข้อจำกัดในการนำไปต่อกับโทโปโลยีอื่น ๆ
ต้องใช้สายเคเบิลจ านวนมากในการต่อ
ยากต่อการติดตั้ง
ตรวจสอบความถูกต้องได้ง่าย
มีความปลอดภัยสูง
ถ้ามีสายเส้นหนึ่งเส้นใดเสียหาย จะไม่ส่งผลต่อระบบ
ลดปัญหาการจราจรภายในเครือข่าย
ตรวจสอบจุดเสียค่อนข้างยาก
หากสายแกนหลักขาด เครือข่ายทั้งระบบจะหยุดการทำงาน
แต่ละโหนดที่เชื่อมต่อบนเครือข่ายจะต้องอยู่ห่างกันตามข้อกำหนด
มีรูปแบบโครงสร้างไม่ซับซ้อน
การเพิ่มโหนดสามารถเพิ่มเข้ากับสายแกนหลักได้ทันที
ประหยัดสายส่งข้อมูล
สิ้นเปลืองสายเคเบิล
พอร์ตเชื่อมต่อบนฮับมีจำนวนจำกัด
หากอุปกรณ์ฮับเสียหาย เครือข่ายจะหยุดทำงานทันที
มีความคงทนสูงกว่าแบบบัส
การวิเคราะห์จุดเสียบนเครือข่ายทำได้ง่ายกว่า
ใช้เทอร์มิเนเตอร์ที่มีความต้านทานทางไฟฟ้า 50 โอห์ม
ใช้การ์ดเครือข่ายที่มีซอกเก็ตแบบ BNC
ภายในหนึ่งเซกเมนต์เชื่อมต่อโหนดได้ไม่เกิน 30 เครื่อง และหากใช้รีพีตเตอร์เพื่อเพิ่มระยะทาง ก็จะสามารถขยายได้สูงสุด 5 เซกเมนต์ รวมระยะทางประมาณ 1,000 เมตร
แต่ละโหนดที่ติดตั้งต้องห่างกันอย่างน้อย 0.5 เมตร
ระยะไกลสุดในการเชื่อมต่อหนึ่งเซกเมนต์คือ 185 เมตร
ใช้สายโคแอกเชียลแบบบาง รหัส RG-58 A/U
ใช้เทอร์มิเนเตอร์แบบ N-Series ที่มีความต้านทานทางไฟฟ้า 50 โอห์ม
ภายในหนึ่งเซกเมนต์ เชื่อมต่อโหนดได้ไม่เกิน 100 เครื่อง และหากใช้รีพีตเตอร์เพื่อเพิ่มระยะทาง ก็จะสามารถขยายได้สูงสุด 5 เซกเมนต์ รวมเป็นระยะทาง 2,500 เมตร
Subtopic
ระยะไกลสุดในการเชื่อมโยงต่อหนึ่งเซกเมนต์คือ 500 เมตร
ความเร็วในการส่งข้อมูล 10 เมกะบิตต่อวินาที
ใช้สายโคแอกเชียลแบบหนา รหัส RJ-8
แต่ละโหนดที่ติดตั้งบนสาย ต้องห่างกัน 2.5 เมตร
ใช้การ์ดเครือข่ายที่มีซ็อกเก็ตแบบ AUI
ส่งข้อมูลแบบเบสแบนด์
ความเร็วในการส่งข้อมูล 10 เมกกะบิตต่อวินาที ส่งข้อมูลแบบเบสแบนด์
ใช้สายเคเบิลชนิดยุทีพี รหัส CAT-3 หรือ CAT-5
มีอุปกรณ์ฮับเป็นศูนย์กลางรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย
ระยะสูงสุดในการเชื่อมโยงต่อหนึ่งเซกเมนต์ หรือจากฮับไปยังโหนดยาวได้ไม่เกิน 100 เมตร
ภายในหนึ่งเซกเมนต์เชื่อมต่อโหนดได้หลายร้อยเครื่อง
ใช้การ์ดเครือข่ายที่มีซอกเก็ตแบบ RJ-45
วงแหวนสำรองที่อยู่ด้านในโทเค็นที่อยู่วงแหวนด้านในจะวิ่งในทิศทางตรงกันข้ามกับวงแหวนด้านนอก โดยวงแหวนทุติยภูมิจะถูกใช้งานเมื่อวงแหวนปฐมภูมิเกิดปัญหา
วงแหวนหลักด้านนอก ซึ่งเป็นสายส่งข้อมูลหลักภายในเครือข่าย โดยรหัสโทเค็นจะวิ่งรอบวงแหวนทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
มาตรฐาน 802.11g
รับส่งข้อมูลสูงถึง 54 เมกกะบิตต่อวินาทีใช้คลื่นความถี่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ (GHz)
มาตรฐาน 802.11b
รับส่งข้อมูลได้สูงถึง 11 เมกกะบิตต่อวินาที ใช้คลื่นความถี่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ (GHz)
มาตรฐาน 802.11a
รับส่งข้อมูลได้สูงถึง 54 เมกกะบิตต่อวินาทีใช้คลื่นความถี่ที่ 5 กิกะเฮิรตซ์