ความรู้พื้นฐานของการวิจัยMap
การเขียนคำถามวิจัย
ประเด็นคาถามเชิงเปรียบเทียบ ได้แก่ การก าหนดหัวข้อปัญหาวิจัย ในรูปของค าถามที่มุ่งเน้น
การเปรียบเทียบพฤติกรรมหรือปรากฏการณ์ที่สนใจระหว่างกลุ่มควบคุมที่ที่ด าเนินตามสภาวะปกติและ
กลุ่มทดลองที่จัดกระท าทางการทดลองขึ้น
ประเด็นค าถามเชิงความสัมพันธ์ ได้แก่ การกาหนดหัวข้อปัญหาวิจัย ในรูปของค าถามที่มุ่ง
หาค าตอบว่า “ตัวแปร X มีความสัมพันธ์กับตัวแปร Y หรือไม่” หรือ “ตัวแปร X พยากรณ์ตัวแปร Y
ได้หรือไม
ประเด็นค าถามเชิงพรรณนา ได้แก่ การก าหนดหัวข้อปัญหาวิจัยในรูปค าถามที่ว่า “อะไรคือ
อะไรเป็น” (What is) การตอบประเด็นค าถามดังกล่าวนี้ แสดงเป็นนัยว่า นักวิจัยจะต้องอาศัยการ
วิจัยเชิงส ารวจ
-อะไรคือพฤติกรรมการบริหารของผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์ดีเด่นและไม่ดีเด่น?
-อะไรคือพฤติกรรมแปลกแยกของนิสิต/นักศึกษาที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศ?
คำว่า "วิจัย" มีผู้ใช้กันมาก ดังจะเห็นได้จากเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน
วารสาร นิตยสาร รวมทั้งการสนทนาในวงการต่างๆ โดยเฉพาะในวงการศึกษา ที่มีการพูดถึงการท า
วิจัยกันในระดับชั้นเรียนซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิรูปทางการศึกษาที่ได้กาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด4 แนวการจัดการศึกษา มาตรา 24(5) ส่งเสริมสนับสนุนให้
ครูผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม
บทสรุป
โดยสรุปแล้วการวิจัย คือการแสวงหาความรูอยางเปนระบบ ซึ่งจะน าเสนอตามวัตถุประสงค
ที่ผูวิจัยไดก าหนด ซึ่งเปนประโยขน์ การศึกษาคนควาของตนเอง หรือองคกร เปนการตอบ
ปรากฏการณ์สภาพการ การแกปญหา หรือการประเมิน ซึ่งมีการก าหนดกลุมเปาหมายในการ วิจัยที่
สามารถอางอิงได โดยใชเครื่องมือในการประเมินอยางมีคุณภาพ
เนื้อหา
แหล่งที่มาของสมมติฐาน
การสังเกตพฤติกรรม
การได้ร่วมอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาที่จะศึกษากับบุคคลอื่น ๆ
ประสบการณ์เบื้องต้นของผู้วิจัย
การสนทนากับผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ
การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ประเภทของสมมติฐาน
สมมติฐานแบบไม่มีทิศทาง
สมมติฐานทางวิจัย
สมมติฐาน
ลักษณะของสมมติฐาน
ตัวอย่างสมมติฐาน
สามารถทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปรเหล่านี้ได้และส่วนใหญ่ต้องอาศัยวิธีการทางสถิติ
เป็นข้อความที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป
การนิยามตัวแปรและการหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
การนิยามตัวแปร
การหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
ตัวแปรและสมมติฐาน
ชนิดของตัวแปร
ตัวแปรสอดแทรก
แปรแทรกซ้อนหรืออาจเรียกว่าตัวแปรเกิน
ตัวแปรตาม
ตัวแปรอิสระ
ลักษณะและชนิดของตัวแปร
ตัวแปรนามธรรม
ตัวแปรรูปธรรม
ความหมายของตัวแปร
ตัวแปร (variables) หมายถึง คุณสมบัติหรือคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่
ผู้วิจัยต้องการจะศึกษาหาความจริง
การจัดกระทำข้อมูล
การสรุปผลการวิจัยและเขียนรายงาน
ผลการวิจัย
วิธีการดำเนินการวิจัย
การตรวจสอบเอกสาร
บทนำ
Output เป็นขั้นตอนที่น าผลจากการขั้นตอนที่ได้จากขั้น
Processing เป็นขั้นตอนของการจัดแบ่งประเภทของข้อมูล
Input เป็นการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห
ขั้นดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ในการด าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยจะต้องทราบว่า
ในการท าการวิจัยนั้นสามารถจะรวบรวมข้อมูลจากกลุ่ม ประชากรทั้งหมด
การจัดกระทำข้อมูล (Data Processing) การจัดกระท าข้อมูลเป็นวิธีการด าเนินการ
อย่างมีระบบตามล าดับขั้นกับข้อมูลต่าง ๆ
การทดลอง
การใช้เทคนิคสังคมมิต
การสังเกต
การสัมภาษณ์
การส่งแบบสอบถาม
การใช้แบบวัดเจตคติ
การใช้แบบทดสอบ
ขั้นตอนในการวิจัย
การสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูล ก่อนที่จะด าเนินการรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยจะต้องทราบว่า
จะใช้เครื่องมืออะไรในการเก็บรวบรวมข้อมูล และเครื่องมือนั้นมีหรือยัง ถ้ายังไม่มีต้องด าเนินการ
สร้างและน าเครื่องมือนั้นไปทดลองใช้ เพื่อหาคุณภาพของเครื่องมือ
การเขียนเค้าโครงการวิจัย การเขียนเค้าโครงการวิจัยเป็นขั้นตอนที่ส าคัญขั้นหนึ่ง เนื่องจาก
เค้าโครงการวิจัยนั้นจะเป็นแบบแผนในการด าเนินงานวิจัยอย่างมีระบบ
งบประมาณ
แผนการท างาน
การวิเคราะห์ข้อมูล
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
การสุ่มตัวอย่าง
รูปแบบของงานวิจัย
วิธีดำเนินการวิจัย
สมมุติฐาน
คำนิยามศัพท์เฉพาะ
ตัวแปรต่าง ๆ ที่วิจัย
ขอบเขตของการวิจัย
วัตถุประสงค์
ภูมิหลังหรือที่มาของปัญหา
ชื่องานวิจัย
การกำหนดสมมุติฐาน หมายถึง การเขียนข้อความที่เป็นข้อคาดหวังเกี่ยวกับความ แตกต่าง
ที่อาจเป็นไปได้ ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ
การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยการศึกษาสาระความรู้ แนวคิด ทฤษฎี
และผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นในต ารา หนังสือ
ได้แนวทางการแปลผลการวิจัยและการเขียนรายงานการวิจัย
ได้แนวทางในการใช้ค่าสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล
ได้แนวทางในการสุ่มตัวอย่าง
ได้แนวทางในการสร้างเครื่องมือเพื่อรวบรวมข้อมูล
ได้แนวทางในการก าหนดสมมุติฐาน
ช่วยให้ก าหนดขอบเขตของการท าวิจัยได้ถูกต้องชัดเจน (กรอบแนวคิด)
ช่วยให้ไม่เกิดการซ้ าซ้อนในการวิจัย
การกำหนดขอบเขตของปัญหา
มองเห็นภาพอย่างแจ่มชัดว่าจะต้องท าอะไรบ้าง
รู้ถึงเทคนิคต่างๆ ที่เหมาะสมในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ตลอดจนการแปลผลการวิจัย
วางแผนรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสม
เลือกหัวข้อปัญหา
ประเภทของการวิจัย
การศึกษาความสัมพันธ์ (Interrelationship Studies) เป็นการวิจัยที่ มี
วัตถุประสงค์เพื่อใช้บรรยายความสัมพันธ์ของคุณลักษณะ
การวิจัยเชิงส ารวจ(Survey Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้
บรรยายคุณลักษณะหรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร
การวิจัยเชิงบรรยาย(Descriptive Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อ
ใช้บรรยายคุณลักษณะ
การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์(Historical Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ ใช้
ข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีหลักฐานปรากฏอยู่ อาทิ รูปภาพ สิ่งพิมพ์ บันทึกเหตุการณ์
การวิจัยเชิงคุณภาพ(Qualitative Research) เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล
จากตัวแปรที่มีลักษณะเป็นข้อความที่บรรยายลักษณะ
การวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล
จากตัวแปรที่มีลักษณะเป็นตัวเลขที่ระบุระดับความมาก/น้อยของปรากฏการณ์ตามเกณฑ์ที่ก าหนดให้
ค่อนข้างชัดเจน
การวิจัยการนำไปใช้(Applied Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ใน การน า
ผลการวิจัยจากการวิจัยพื้นฐานมาใช้ประโยชน์ต่อการด ารงชีวิตของมนุษย์ได้ในปัจจุบัน
การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์(Basic Research or Pure Research) เป็น
การวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหาความรู้ความจริงเชิงทฤษฎี/ปรากฏการณ
ธรรมชาติของการวิจัย
การวิจัยต้องใช้ศักยภาพของผู้วิจัย
การวิจัยมีวิธีการที่หลากหลาย
การวิจัยต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่
การวิจัยเป็นการแก้ปัญหา
การวิจัยมีเหตุผล
การวิจัยมีความเชื่อมั่น
การวิจัยมีความเที่ยงตรง (Validity) หมายถึง การวิจัย ใด ๆ จ าเป็นต้องมีความเที่ยงตรง
ใน 2 ลักษณะ ได้แก่ ความเที่ยงตรงภายใน
การวิจัยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน หมายถึง การวิจัยเป็นการด าเนินการที่มีจุดมุ่งหมายใน 4
ลักษณะ คือ บรรยาย อธิบาย พยากรณ์ และควบคุม ในปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
การวิจัยเป็นการด าเนินการที่เป็นระบบ หมายถึง การวิจัยเป็นการด าเนินการตามขั้นตอน
วิธีการทางวิทยาศาสตร
การวิจัยเป็นกระบวนการเชิงประจักษ์ หมายถึง การวิจัยเป็นกระบวนการแสวงหาค าตอบที่
ต้องใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีความถูกต้อง เชื่อถือได้ และมีความชัดเจนที่สามารถตรวจสอบได
คุณลักษณะของการวิจัย
การวิจัย เป็นวิธีการ ๆ หนึ่งที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ความ
จริง ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีระบบและขั้นตอนชัดเจน และมีการก าหนดจุดมุ่งหมายของการ
วิจัย ในแต่ละครั้งอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร ที่ผู้วิจัยจะใช้เป็นแนวทางในการแสวงหาค าตอบ เพื่อใช้
อธิบาย พยากรณ์ และควบคุมปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ๆ
ต้องเป็นการดำเนินการแสวงหาคำตอบที่น ามาใช้ตอบคำถามของปัญหาที่ ยัง
ไม่สามารถแก้ไขได้
ต้องกำหนดวัตถุประสงค์ โดยใช้เหตุผลตามหลักความเป็นจริงที่จะสามารถ
ทดสอบได้และวิธีการที่เหมาะสม
จะต้องเป็นการดำเนินการโดยใช้ความรู้ความช านาญของผู้วิจัยที่จะต้องรับรู้
ปัญหาที่ตนเองจะทำวิจัย
ต้องมีระบบ มีวิธีการ แบบแผนการวิจัย และการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ชัดเจน ที่
จะท าให้ได้ข้อสรุปการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่จากแหล่งปฐมภูมิ หรือใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วใน
การตอบค าถามตามจุดประสงค์ใหม
การวิจัยจ าเป็นจะต้องมีกระบวนการสังเกตที่ถูกต้อง ชัดเจน และบรรยายปรากฏการณ์ที่
เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
มีแนวคิดพื้นฐานของการได้รับข้อมูลที่สรุปจากประสบการณ์ที่ได้จากการสังเกต
หรือข้อมูลเชิงประจักษ
เป็นการพัฒนาข้อสรุป หลักเกณฑ์และทฤษฎีที่สามารถน าไปใช้อ้างอิงหรือ
คาดการณ์โดยเฉพาะในกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต c
ป็นการแก้ปัญหาที่ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้าย
แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย
กฎองค์ประกอบหลักของธรรมชาต
กฎความสัมพันธ์ของธรรมชาติ
กฎความเป็นระบบของธรรมชาต
กฎเหตุและผลของธรรมชาติ
จุดมุ่งหมายของการวิจัย
3 การวิจัยเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล
การวิจัยเป็นการสรุปผล หลักเกณฑ์ และทฤษฏีที่ใช้ในการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะ
เกิดขึ้นในอนาคต
เป้าหมายของการวิจัย คือ มุ่งหาค าตอบเพื่อน ามาใช้แก้ปัญหา
ความหมายของการวิจัย
การวิจัย หมายถึง การแสวงหาความรู้ความจริงด้วยวิธีการที่มีระบบ มีความเชื่อถือโดยใช้
ระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ได้ความรู้ใหม่ที่เป็นค าตอบปัญหาตามวัตถุประสงค์ที่ก าหนด
ไว้อย่างชัดเจน
การวิจัย เป็นกระบวนการค้นหาข้อเท็จจริง หรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างมีระบบ
ระเบียบ และมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนเพื่อให้ได้ความรู้ที่เชื่อถือได
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
เขียนโครงร่างการวิจัยได้
ระบุขั้นตอนของการวิจัยได้
.เลือกรูปแบบการวิจัยเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม
เปรียบเทียบประเภทของการวิจัยแบบต่างๆ ได้
จำแนกการวิจัยประเภทต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
อธิบายความหมายและคุณลักษณะของการวิจัยได้