Basic of Statistic and Data collection สถิติพื้นฐานเพื่อวิจัย
การเสนอผลสถิติพรรณนาในรายงานวิจัย
ไม่ใส่คำที่ไม่ใช่สาระ
ระบุหมายเลขและชื่อตาราง
เสนอในรูปตาราง
สถิติพรรณนำสำหรับตัวแปรเชิงคุณภาพ
ค่าสถิติเชิงพรรณนาที่สำคัญจากการวิเคราะห์สถิต
อัตราส่วนที่ถูกต้อง (Valid Percent) เป็นการคำนวณที่ไม่
นำเอาค่าที่ไม่ต้องการหรือขาดหาย (Missing) มาใช้ในการ
วิเคราะห์
อัตราส่วนร้อยปกติ (Percent) เป็นการนำข้อมูลทุกกรณีมาวิเคราะห์
ไม่ว่าข้อมูลจะขาดหายไป
ค่าความถี่(Frequency)
ต้องมีการลงรหัสข้อมูลให้เป็นตัวเลข (Coding) ถ้ารหัสใดไม่
ต้องการวิเคราะห์ให้เป็น Missing Value(s)
ส่วนใหญ่ใช้กับข้อมูลที่เก็บจากแบบสอบถาม
สถิติพรรณนากับการวิจัย
จากกลุ่ม/หน่วยวิเคราะห์ที่เหมาะสมหรือไม่ ทั้งในด้านจำนวนและในด้าน
คุณสมบัติ
ช่วยในการตัดสินใจเบื้องต้นว่าการวิจัยได้เก็บข้อมูล
เหมาะสำหรับการรายงานวิจัยทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ
ช่วยสรุปตัวเลขหรือหน่วยจำให้เห็นเป็นรูปธรรม
ช่วยสรุปคุณสมบัติของสิ่งศึกษา (ประชากรหรือกลุ่มหน่วยวิเคราะห์)
ตัวแปร
ประเภทของตัวแปรตามระดับของการวัด
ตัวแปรอัตราส่วน (Ratio)
ตัวแปรช่วงหรืออันตรภาค (Interval)
ตัวแปรอันดับ (Ordinal)
ตัวแปรกลุ่ม หรือ นามมาตร หรือ นามกำหนด (Norminal)
ประเภทตัวแปรตามบทบาท
ตัวแปรตาม (Dependent Variables)
ตัวเเปรที่เปลี่ยนไปตามตัวเเปรต้น
ตัวแปรอิสระ (Independent Variables)
ตัวเเปรที่กำหนดขึ้นเพื่อทดสอบสมมติฐาน
หลักกำรเบื้องต้นที่สำคัญของการใช้สถิติ
ทำการตีความหมายผลที่ได้จากการวิเคราะห์ ให้เป็นไปตาม
หลักการหรือเกณฑ์ที่กำหนด
ทำการอ่านผลค่าสถิติต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง
ทำการเสนอที่ได้รูปแบบมาตรฐานของแต่ละวิธีการที่ใช้กัน
ในวงการวิจัย
หลีกเลี่ยงการนำเสนอที่ซ้ำซาก โดยเสนอให้น้อยที่สุดแต่สิ่งที่เสนอต้องสื่อความหมายให้ได้มากที่สุดหรือครบถ้วนสมบูรณ์ในตัวของมันเอง
หลักการเบื้องต้นที่สำคัญของการใช้สถิติ
ตีความหมาย
แปลผลค่าสถิติต่างๆ ได้ถูกต้อง
เสนอในรูปแบบมาตรฐานของแต่ละวิธีการหรือที่วงวิชาการยอมรับ
หลีกเลี่ยงการเสนอซ้ำซาก
ข้อพิจารณาการใช้สถิติเพื่อการวิจัย
รู้ลักษณะของข้อมูลว่ามีการวัดระดับใด (Level of Measurement )
ทราบประเภทของสถิติที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์
ทราบวัตถุประสงค์ของการนำวิธีการสถิติมาใช้
วัตถุประสงค์โดยทั่วไปของการใช้สถิติเพื่อการวิจัย
ศึกษาการประมาณค่าหรือการพยากรณ์
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
ศึกษาความแตกต่างระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่เป็น
เป้าหมายของการศึกษา
พรรณนาคุณสมบัติของหน่วยศึกษา/วิเคราะห์
Inferential Statistics
-สถิตไร้พารามิเตอร์ (Nonparametric Statistics)
• เป็นวิธีการทางสถิติที่สามารถ
นำมาใช้ได้โดยปราศจากข้อตกลง
เบื้องต้นทั้ง 3 ประการข้างต้น
สถิติพารามิเตอร์ (Parametric Statistics )
การเขียนแสดงค่าสถิติใช้ภาษาอังกฤษเป็น
สัญลักษณ์
การเขียนแสดงค่าใช้อักษรกรีกเป็นสัญลักษณ์
ประชากรแต่ละกลุ่มที่นำมาศึกษาจะต้องมีความ
แปรปรวนเท่ากัน
มีการแจกแจงเป็นโค้งปกติ
ข้อมูลระดับช่วงขึ้นไป (Interval Scale)
สถิติว่าด้วย การวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวม
มาจากกลุ่มตัวอย่างเพื่ออธิบาย สรุป
ลักษณะบางประการของประชากร
Descriptive Statistics
สถิติเชิงพรรณนำ
ลักษณะที่จะพรรณนาข้อมูลนั้น มีอยู่สองลักษณะ
การใช้แผนภาพ
การใช้ตัวอักษรหรือตัวเลข
ไม่ได้นำไปพยากรณ์ประชากร แต่อย่างใด
การใช้สถิติเพื่ออธิบายข้อมูลที่มีอยู่
ประเภทของข้อมูล
อัตราส่วน (Ratio Scale)
ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์กับสถิติได้
ทุกตัว
ข้อมูลประเภทนี้ เป็นข้อมูลที่ใช้วัดในระดับสูงสามารถบวก ลบ คูณ หาร ได้ และมีศูนย์แท้เช่น น้ำหนัก ความเร็ว ความกว้าง ความหนา พื้นที่ จำนวนเงิน อายุ ระยะทาง ซึ่งถ้ามีค่าเป็น 0 หมายถึง ไม่มี
อัตราภาค (Interval)
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ความถี่ สัดส่วน
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และ
สถิตชั้นสูงทุกตัว
เป็นข้อมูลที่บอกถึงความแตกต่างระหว่างค่าที่
วัดได้แต่ละช่วง ที่มีความห่างเท่ากัน ทุกช่วง
เป็นข้อมูลที่เป็นตัวเลข สามารถ บวก ลบ กันได้
แต่ไม่มีศูนย์แท้
เรียงอันดับ (Ordinal Scale)
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ความถี่สัดส่วน ร้อยละ
เป็นข้อมูลที่ใช้จัดอันดับของสิ่งต่างๆ โดยเรียงอันดับของข้อมูลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้จากสูงสุดไปหาต่ำสุด
นามบัญญัติ (Nominal Scale)
ใช้สถิติง่ายๆ ในการคำนวณ คือ ความถี่ สัดส่วน ร้อยละ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงตัวแทนของชื่อกลุ่มเท่านั้น จะนำไป บวก ลบ คูณ หาร กันไม่ได้ในทางสถิติ เพราะไม่มีความหมาย
เป็นระดับการวัดที่หยาบที่สุด จัดข้อมูลหรือตัวแปรออกเป็นกลุ่ม เช่น เพศ อาชีพ
คําจํากัดความ
สถิติ หมายถึง ตัวเลขหรือข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมสถิติในความหมายที่กล่าวมานี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าข้อมูลทางสถิติ
สถิติ (statistics) มาจากภาษาเยอรมันมีรากศัพท์มาจาก stat หมายถึง ข้อมูลหรือสารสนเทศ