door Phatthapon Narksuwan 5 jaren geleden
840
Meer zoals dit
door Who I'am I
door s n
door Sittichai Thanomboon
door Bulun supong
Use this mind map structure to discover unseen connections, generate new ideas and reach a better understanding of any given subject.
1) ให้เรียงทีละตัวอักษรของคำนั้น 2) คำนำหน้าชื่อ M’ Mc ห รือ Mac ให้เรียงตามรูปที่ปรากฏ โดยไม่สนใจเครื่องหมาย ‘ 3) ชื่อสกุลที่มี article หรือ preposition เช่น de, la, du, von ให้เรียงตามกฎของภาษานั้น ถ้ารู้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชื่อสกุล ให้เรียงลำดับอักษรตามรูปที่ปรากฏ 4) ถ้าเรียงงานหลายงานที่มีชื่อผู้แต่งคนแรกเหมือนกัน โดยใช้หลักดังนี้ 1.1 ให้เรียงรายการที่มีผู้แต่งคนเดียวมาก่อนรายการที่มีหลายคน 1.2 ถ้าผู้แต่งคนแรกซ้ำกัน ให้เรียงตามชื่อผู้แต่งคนต่อมา 1.3 ถ้าผู้แต่งเหมือนกันหมด ให้เรียงล าดับตามอักษรของชื่อเรื่อง 1.4 ถ้าเป็นการอ้างอิงแบบที่ 2 (ซึ่งมีปีพิมพ์มาก่อนชื่อเรื่อง) ให้เรียงตามปีพิมพ์ต่อมา แต่ถ้าปีพิมพ์ยังซ้ ากันให้เรียงตามลำดับอักษร a b c ที่กำกับปีพิมพ์นั้น 5) ถ้าชื่อผู้แต่งเหมือนกัน ให้เรียงตามอักษรของชื่อต้นและชื่อกลาง 6) เอกสารผู้แต่งที่เป็นสถาบัน สมาคม หน่วยงาน ให้เรียงตามลำดับอักษรตัวแรกของชื่อสถาบันที่สะกดเต็ม โดยเรียงไปทีละลำดับตั้งแต่หน่วยงานใหญ่ถึงหน่วยงานย่อย
2.1) หนังสือ 2.2) บทความในหนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ 2.3) เอกสารอื่น ๆ เช่น เอกสารการประชุม สัมมนา จุลสาร เป็นต้น 2.4) โสตทัศน์ 2.5) สารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์
In the conclusion you should have a brief summary of your key points.
Emphasize how you managed to defend your main idea and goals along the essay.
วิธีการเขียนบรรณานุกรม หรือ เอกสารอ้างอิง มีรายละเอียดของรายการ หลักการลงรายการ และ แบบแผนของรายการ ดังต่อไปนี้
3.2.1 รายละเอียดของรายการ แต่ละรายการประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3ส่วนคือ 1) ส่วนที่เป็นชื่อผู้แต่ง ได้แก่ ผู้รับผิดชอบในการเขียนหรือผลิตสิ่งพิมพ์นั้น ซึ่งอาจเป็น ผู้รวบรวม บรรณาธิการ ผู้แปล หรือหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้ 2) ส่วนที่เป็นชื่อเรื่อง ได้แก่ชื่อหนังสือ ชื่อบทความ ชื่อวารสาร และชื่อของสิ่งพิมพ์ประเภทนั้น ๆ ที่ผู้เขียนน ามาค้นคว้าอ้างอิง 3) ส่วนที่เป็นการพิมพ์ได้แก่ ครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ส านักพิมพ์หรือโรงพิมพ์และปีพิมพ์ของหนังสือ หรือเป็นปีที่ วันเดือนปีของวารสาร หรืออื่น ๆ ที่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการพิมพ์ของสิ่งพิมพ์แต่ละประเภทนั้น เฉพาะส่วนที่เป็นปีที่พิมพ์จะใส่ไว้ต่อจากชื่อผู้แต่ง
การอ้างโดยการระบุชื่อผู้แต่งและปีพิมพ์ของเอกสารที่อ้าง แทรกปนไปกับเนื้อหาของบทความ โดยใช้วิธีการอ้างอิงระบบชื่อ-ปี(Name-year system) ซึ่งเป็นการอ้างโดยการระบุชื่อผู้แต่ง และปีพิมพ์ของเอกสารที่อ้าง แทรกปนไปกับเนื้อหาของบทความสำรับผู้แต่งที่เป็นคนไทยให้ระบุชื่อผู้แต่ง (ชื่อตัว และ ชื่อสกุล) ส่วนผู้แต่งชาวต่างประเทศให้ระบุเฉพาะชื่อสกุล เท่านั้น
The key points are the arguments which will support your thesis. These can be agreeing arguments or disagreeing arguments too, in each case they need to reflect on the main idea.
5.3.10 การเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Writing) เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการสร้างผลงาน ได้แก่ การตรวจทานต้นฉบับ การพิสูจน์อักษรที่สมบูรณ์ ตรวจสอบแหล่งที่มาของ ข้อมูล ตรวจสอบการอ้างอิง และการเขียนบรรณานุกรม ตรวจสอบการเรียงลำดับหน้า
5.3.9 การเขียนรายการอ้างอิงและบรรณานุกรม (Write the Referenceand Bibliography) บรรณานุกรม คือรายชื่อของสิ่งพิมพ์ทั้งหมดที่ผู้ทำรายงานใช้ค้นคว้า ส่วนรายการอ้างอิง
5.3.8 การเรียบเรียงรายงาน (Writing and revising) ในการเรียบเรียงเนื้อหาของรายงานจากข้อมูลทั้งหมดที่ได้บันทึก ผู้เรียบเรียงควรเขียนด้วยสำนวนของตนเองมากที่สุด ใช้ภาษาอย่างถูกต้อง
5.3.7 การจัดทำโครงเรื่องครั้งสุดท้าย (The final outline) การจัดทำโครงเรื่องรายงานครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นจากการที่มีข้อมูลในแต่ละบท แต่ละตอนครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในการกำหนด
5.3.6 การใช้สารสนเทศจากแหล่งต่าง ๆ (Using sources of Information) ก่อนใช้สารสนเทศจากแหล่งต่างๆ ให้พิจารณาสิ่ง ต่อไปนี้ ความเชื่อถือได้ความทันสมัย ครั้งที่พิมพ์รูปเล่ม วิธีการจัดพิมพ์รายการบรรณานุกรมประกอบ ให้ใช้หนังสืออ้างอิงให้มากที่สุด และควรใช้แหล่งสารสนเทศจากหนังสือ ตำรา บทความวารสาร อินเทอร์เน็ต ฐานข้อมูลและแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม
5.3.5 การอ่านและจดบันทึก (Reading and Notes) เป็นการอ่านอย่างพินิจพิจารณา อาจจะอ่านตั้งแต่บทแรกเรียงตามลำดับไปจนจบ
5.3.4 รวบรวมบรรณานุกรม (The working bibliography) ในการ รวบรวมข้อมูล จำเป็นต้องรู้จักแหล่งข้อมูล เช่น ห้องสมุด รวมทั้งรู้จักใช้แหล่งสารสนเทศประเภทต่างๆ เช่น ฐานข้อมูล OPAC ฐานข้อมูลออนไลน์ อินเทอร์เน็ต
5.3.3 การจัดทำเค้าโครงรายงาน (the Preliminary Outline) โครงเรื่อง ประกอบด้วย บทนำ หัวข้อใหญ่ หัวข้อรอง หัวข้อย่อย และบทสรุป
5.3.2 อ่านข้อมูลของเนื้อหาวิชาเพื่อเป็นพื้นความ รู้ (Reading forBackground) และกำหนดวัตถุประสงค์ของการทำรายงาน (Report objectives)
5.3.1 เลือกและกำหนดหัวข้อการทำรายงาน (Choose the topics)
5.2.3 ส่วนอ้างอิง (Citation) หมายถึง ส่วนที่แสดงหลักฐานประกอบการค้นคว้า และการเขียนรายงานเพื่อให้ทราบว่าผู้ทำรายงานได้ค้นคว้ามาจากแหล่งใดบ้าง ซึ่งประกอบด้วย
5.2.3.2 ภาคผนวก (Appendixes) ภาคผนวกเป็นส่วนที่ให้ รายละเอียดเพิ่มเติมช่วยให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจชัดเจนขึ้น
5.2.3.1 บรรณานุกรม หรือ เอกสารอ้างอิง (References) จะอยู่ต่อ จากส่วนเนื้อหาและก่อนภาคผนวก คือส่วนที่รวบรวมรายชื่อ หนังสือ สิ่งพิมพ์อื่นๆ โสตทัศนวัสดุ ตลอดจนวิธีการที่ได้ข้อมูล มาเพื่อประกอบการเขียนรายงานเรื่องนั้นๆ กำหนดให้ใช้คำว่า “บรรณานุกรม” หรือ “เอกสารอ้างอิง”
5.2.2 ส่วนเนื้อเรื่อง (Body of contents) หมายถึงส่วนที่อยู่ต่อจากส่วนนำเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของรายงานส่วนเนื้อเรื่องจะประกอบด้วยบทนำ เนื้อเรื่อง และสรุป ดังรายละเอียดต่อไปนี้
5.2.2.3สรุป (Conclusion) คือ ส่วนที่เขียนย้ำ หรือนำเสนอประเด็นสำคัญของเนื้อเรื่อง ส่วนสรุปนี้ จะอยู่ในย่อหน้าสุดท้ายของเนื้อเรื่อง
5.2.2.2เนื้อเรื่อง (Content) คือ ส่วนที่เสนอเรื่องราวสาระทั้งหมด ของรายงานตามลำดับของหัวข้อที่ระบุไว้ในหน้าของสารบัญ ใน การนำเสนอเนื้อเรื่อง ต้องไม่ใช่เป็นการคัดลอกข้อความจาก เอกสารต้นเรื่องที่อ่านมาทุกประโยคทุกตอน แต่ผู้เขียนจะต้อง เขียนจากความรู้และความคิดของตนเองบ้าง
5.2.2.1 บทนำ (Introduction) ต่างจากคำนำ คือการเขียนบทนา จะต้องอธิบายเนื้อหาอย่างกว้างๆ เป็นการนำผู้อ่านเข้าสู่ เนื้อเรื่อง หรือเนื้อหาของรายงานให้ผู้อ่านเข้าใจในเบื้องต้น
5.2.1 ส่วนนำ หมายถึง ส่วนที่อยู่ต้นเล่มของรายงาน ก่อนถึงเนื้อเรื่อง ส่วนนำประกอบด้วย ปกนอก หน้าปกใน คำนำ และสารบัญ ดังรายละเอียดดังต่อไปนี
5.2.2.5 สารบัญ หรือสารบาญ (Table of contents) คือส่วนที่อยู่ ต่อจากหน้าคำนำ ในหน้าสารบัญ จะมีลักษณะคล้ายโครงเรื่อง ของรายงานทำให้ผู้อ่านได้ทราบว่า ขอบเขต เนื้อหา ของ รายงานคลอบคลุมเรื่องใดบ้าง
5.2.2.4 คำนำ (Preface) คือส่วนที่อยู่ถัดจากหน้าปกใน ผู้เขียน รายงานเป็นผู้เขียนเอง โดยกล่าวถึงวัตถุประสงค์และขอบเขต ของรายงาน
5.2.2.3กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) เป็นข้อความ แสดงความขอบคุณผู้ช่วยเหลือ สนับสนุนและให้ความร่วมมือใน การค้นคว้าเพื่อท ารายงาน แสดงถึงจรรยาบรรณทางวิชาการที่ ผู้ทำรายงานทางวิชาการควรถือปฏิบัติโดยพิมพ์คำว่า“กิตติกรรมประกาศ”อยู่กลางหน้ากระดาษ มีความยาวไม่เกิน 1 หน้า
5.2.2.2 หน้าปกใน (Title page) คือส่วนที่อยู่ต่อจากหน้าปกนอก นิยมเขียนเหมือนปกนอก
5.2.2.1 ปกนอก (Cover) คือ ส่วนที่เป็นปกหุ้มรายงานทั้งหมดมีทั้งปกหน้าและปกหลัง กระดาษที่ใช้เป็นปกควรเป็นกระดาษแข็งพอสมควรสีสันไม่ฉูดฉาด ข้อความที่ปรากฏบนหน้าปก
State the main idea of the essay. This will be your thesis statement.
In the introduction you should state the ideas what you want to defend along the essay.