Categories: All - วิเคราะห์ - การวิจัย - สมมุติฐาน - เครื่องมือ

by ปรมาภร ปรางทอง 4 years ago

453

Fundamental of Research

การวิจัยเป็นกระบวนการที่มีระบบและขั้นตอนที่ชัดเจนเพื่อแสวงหาความรู้และข้อเท็จจริง โดยมีการกำหนดหัวข้อปัญหาและขอบเขตการวิจัยอย่างแน่นอน การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเพื่อให้เข้าใจแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง การเขียนเค้าโครงการวิจัยเป็นขั้นตอนสำคัญที่รวมถึงการกำหนดชื่อ งานวิจัย วัตถุประสงค์ และตัวแปรต่าง ๆ การสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูลต้องมีความแม่นยำและเชื่อถือได้ การดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นขั้นตอนที่สำคัญและต้องเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ การวิเคราะห์ข้อมูลต้องมีการจัดเตรียมข้อมูลและจัดแบ่งประเภทของข้อมูลอย่างเป็นระบบ ผลการวิเคราะห์จะถูกนำมาสรุปและเขียนเป็นรายงาน หรือเสนอในรูปแบบของตารางหรือแผนภูมิต่าง ๆ ตัวแปรและสมมุติฐานเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการวิจัยที่ช่วยในการคาดหวังและอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ถูกต้องและเชื่อถือได้

Fundamental of Research

Fundamental of Research

คุณลักษณะของการวิจัย

11 การวิจัย จะต้องมีการจดบันทึกข้อมูล และจัดทำรายงานการวิจัยด้วยความระมัดระวัง ในการใช้คำที่มีความหมาย
10 การวิจัย เป็นกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการด้วยความอดทน ไม่เร่งรีบ และจะต้อง ยอมรับ/เผชิญอุปสรรคในวิธีการได้มาของคำตอบในการวิจัย
9 งานวิจัย จะต้องเป็นการดำเนินการแสวงหาคำตอบที่นำมาใช้ตอบคำถามของปัญหาที่ ยัง ไม่สามารถแก้ไขได้
8 การวิจัย จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ โดยใช้เหตุผลตามหลักความเป็นจริงที่จะสามารถ ทดสอบได้และวิธีการที่เหมาะสม
7 การวิจัย จะต้องเป็นการดำเนินการโดยใช้ความรู้ความชำนาญของผู้วิจัยที่จะต้องรับรู้ ปัญหาที่ตนเองจะทำวิจัย
6 การวิจัยจะต้องมีระบบ มีวิธีการ แบบแผนการวิจัย และการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ชัดเจน ที่ จะทำให้ได้ข้อสรุปการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
5 การวิจัย เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่จากแหล่งปฐมภูมิ หรือใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วใน การตอบคำถามตามจุดประสงค์ใหม
4 การวิจัยจำเป็นจะต้องมีกระบวนการสังเกตที่ถูกต้อง ชัดเจน และบรรยายปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
3 การวิจัย มีแนวคิดพื้นฐานของการได้รับข้อมูลที่สรุปจากประสบการณ์ที่ได้จากการสังเกต หรือข้อมูลเชิงประจักษ์ (Empirical)
2 การวิจัย เป็นการพัฒนาข้อสรุป หลักเกณฑ์และทฤษฎีที่สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือ คาดการณ์โดยเฉพาะในกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
1 การวิจัย เป็นการแก้ปัญหาที่ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้าย ที่เป็นการค้น ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล

จุดมุ่งหมายของการวิจัย

3 การวิจัยเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือปรากฏการณ์ที่สังเกตได้มาใช้ในการสรุปผล โดย ที่ปัญหาในบางปัญหาไม่สามารถท าการวิจัยได้เนื่องจากไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลได้
2 การวิจัยเป็นการสรุปผล หลักเกณฑ์ และทฤษฏีที่ใช้ในการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นในอนาคต หรือเป็นการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเพื่อที่นำผลสรุปอ้างอิงไปสู่ประชากร
1 เป้าหมายของการวิจัย คือ มุ่งหาคำตอบเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหา โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่มีความเป็นเหตุและเป็นผลซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน

ความหมายของการวิจัย (Meaning of Research)

การวิจัย เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ที่มีระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจนปราศจาก อคติส่วนตัว สามารถตรวจสอบได้ที่ผู้วิจัยนำมาใช้ศึกษา ค้นคว้าข้อเท็จจริง เพื่อนำไปใช้อธิบายปรากฏการณ์ ทางสังคม หรือพัฒนาเป็นกฎ ทฤษฏี หรือนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและเชื่อถือได้

ตัวแปรและสมมติฐาน

2. ลักษณะและชนิดของตัวแปร
ชนิดของตัวแปร

4) ตัวแปรสอดแทรก (intervening variable) เป็นตัวแปรอีกชนิดหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อตัว แปรตามคล้าย ๆ ตัวแปรแทรกซ้อน

3) แปรแทรกซ้อนหรืออาจเรียกว่าตัวแปรเกิน (extraneous variable) เป็นตัวแปรที่ไม่ ต้องการศึกษาของงานวิจัยเรื่องหนึ่ง ๆ ในขณะนั้น

2) ตัวแปรตาม (dependent variable) หมายถึงตัวแปรที่เกิดขึ้นเนื่องจากตัวแปรอิสระ

1) ตัวแปรอิสระ (independent variable) หมายถึงตัวแปรที่เกิดขึ้นก่อนและ เป็นตัวเหตุ ทำให้เกิดผลตามมา

ลักษณะของตัวแปร ตัวแปรที่ศึกษาทางด้านธุรกิจส่วนใหญ่เป็นตัวแปรเกี่ยวกับ คุณลักษณะและลักษณะ พฤติกรรมต่าง ๆ ของธุรกิจ

2) ตัวแปรนามธรรม (Construct) หมายถึง ตัวแปรที่แสดงความหมายใน ลักษณะ เฉพาะตัวบุคคล

1) ตัวแปรรูปธรรม (Concept) หมายถึงตัวแปรที่แสดงความหมายในลักษณะ ที่คนทั่วไป รับรู้ได้ตรงกันหรือสอดคล้องกัน

1. ความหมายของตัวแปร ตัวแปร (variables) หมายถึง คุณสมบัติหรือคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้วิจัยต้องการจะศึกษาหาความจริง

ธรรมชาติของการวิจัย

การวิจัยต้องใช้ศักยภาพของผู้วิจัย หมายถึง การวิจัยที่มีประสิทธิภาพจะต้องดำเนินการ โดยที่ผู้วิจัยที่มีความรู้ความสามารถ
การวิจัยต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่ หมายถึง การวิจัยในแต่ละครั้งจะต้องมีการเก็บ รวบรวมข้อมูลใหม่เพื่อตอบคำถามตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยนั้น ๆ
การวิจัยเป็นการแก้ปัญหา หมายถึง การวิจัยเป็นการดำเนินการที่จะเริ่มต้นด้วยปัญหาที่ เกี่ยวพันกันระหว่างปัญหา(ตัวแปรตาม) กับวิธีการแก้ปัญหา(ตัวแปรต้น)
การวิจัยมีวิธีการที่หลากหลาย หมายถึง การวิจัยจะมีวิธีการในการดำเนินการวิจัยที่ให้ ผู้วิจัยได้เลือกใช้อย่างหลายหลายวิธีการตามความเหมาะสมของปัญหาการวิจัย วัตถุประสงค์ หรือ การดำเนินการวิจัย
การวิจัยมีเหตุผล หมายถึง การวิจัยเป็นการด าเนินการที่จะต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนใน การ ดำเนินการทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบ ได้อย่าง ชัดเจน
การวิจัยมีความเชื่อมั่น (Reliability) หมายถึง การวิจัยต้องมีความคงเส้นคงวาในการดำเนินการวิจัย
การวิจัยมีความเที่ยงตรง (Validity) หมายถึง การวิจัย ใด ๆ จำเป็นต้องมีความเที่ยงตรง
การวิจัยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน หมายถึง การวิจัยเป็นการดำเนินการที่มีจุดมุ่งหมาย
การวิจัยเป็นการดำเนินการที่เป็นระบบ หมายถึง การวิจัยเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Method)
การวิจัยเป็นกระบวนการเชิงประจักษ์ หมายถึง การวิจัยเป็นกระบวนการแสวงหาค าตอบที่ ต้องใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีความถูกต้อง เชื่อถือได้

แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย

5 กฎความน่าจะเป็นของธรรมชาติ(Probabilistic Law of Nature)
4 กฎองค์ประกอบหลักของธรรมชาติ(Principle Component of Nature)
1 กฎเหตุและผลของธรรมชาติ(Deterministic Law of Nature)
3 กฎความสัมพันธ์ของธรรมชาติ(Associative Law of Nature)
2 กฎความเป็นระบบของธรรมชาติ(Systematic Law of Nature)

ขั้นตอนในการวิจัย

7) ขั้นดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
6) การสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูล
5) การเขียนเค้าโครงการวิจัย การเขียนเค้าโครงการวิจัยเป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นหนึ่ง
5.1 ชื่องานวิจัย 5.2 ภูมิหลังหรือที่มาของปัญหา 5.3 วัตถุประสงค์ 5.4 ขอบเขตของการวิจัย 5.5 ตัวแปรต่าง ๆ ที่วิจัย 5.6 คำนิยามศัพท์เฉพาะ (ในกรณีที่จำเป็น) 5.7 สมมุติฐาน (ถ้ามี) 5.8 วิธีดำเนินการวิจัย 5.9 รูปแบบของงานวิจัย 5.10 การสุ่มตัวอย่าง 5.11 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 5.12 การวิเคราะห์ข้อมูล 5.13 แผนการทำงาน 5.14 งบประมาณ
4) การกำหนดสมมุติฐาน หมายถึง การเขียนข้อความที่เป็นข้อคาดหวังเกี่ยวกับความแตกต่าง ที่อาจเป็นไปได้
3) การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยการศึกษาสาระความรู้ แนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นในตำรา หนังสือ วารสาร รายงานการวิจัยและเอกสาร
2) การกำหนดขอบเขตของปัญหา
1) เลือกหัวข้อปัญหา เป็นการตอบค าถามที่ว่าเราจะท าวิจัยเรื่องอะไร ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ รอบคอบด้วยความมั่นใจและเขียนชื่อเรื่องที่จะวิจัยออกมา

ประเภทของการวิจัย

ประเภทของการวิจัยจำแนกตามการจัดกระทำ
การวิจัยแบบทดลองที่แท้จริง(True Experimental Research) เป็นการวิจัย ที่ใช้ ตรวจสอบความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างตัวแปร
การวิจัยกึ่งทดลอง(Quasi Experimental Research) เป็นการวิจัยที่ไม่สามารถ ดำเนินการในกระบวนการวิจัยได้อย่างครบถ้วน
การวิจัยแบบทดลองเบื้องต้น(Pre Experimental Research) เป็นการวิจัยที่ ศึกษาปรากฏการณ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยไม่ได้มีการจัดกระทำสิ่งทดลองให้ในการทดลอง
จำแนกประเภทการวิจัยตามเป้าหมายหลักของการวิจัย
การวิจัยที่มุ่งแสวงหาความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างตัวแปร(Causal-Oriented Research)
การวิจัยที่มุ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร(Correlation-Oriented Research)
การวิจัยที่มุ่งบรรยายตัวแปร(Descriptive-Oriented Research)
จำแนกตามเวลาที่ใช้ในการทำวิจัย
การวิจัยแบบต่อเนื่อง (Longitudinal Research) เป็นการวิจัยที่ใช้เวลาอย่าง ต่อเนื่องในการเก็บรวบรวมข้อมูล ทำให้ได้ผลสรุปของข้อมูลที่ชัดเจน
การวิจัยแบบตัดขวาง/ระยะสั้น(Cross-section Research) เป็นการวิจัยที่ใช้ เวลาในการวิจัยช่วงใดช่วงหนึ่งที่ผู้วิจัยสนใจแล้วนำมาสรุปผลในภาพรวมของปรากฏการณ์นั้น ๆ
จำแนกตามลักษณะของวิชา หรือศาสตร์
การวิจัยทางสังคมศาสตร์(Social Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ศึกษาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม การเมือง การ ปกครอง และการศึกษา
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์(Scientific Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เกี่ยวกับสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต
จำแนกตามระเบียบวิธีวิจัย(Methodology)
การวิจัยเชิงบรรยาย(Descriptive Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ใช้บรรยายคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามสภาพการณ์ธรรมชาติของปรากฏการณ์นั้น ๆ

การศึกษาพัฒนาการ(Developmental Studies)

การศึกษาแนวโน้ม(Trend Studies)

การศึกษาความเจริญงอกงาม(Growth Studies)

การศึกษาความสัมพันธ์ (Interrelationship Studies)

การวิจัยเชิงสำรวจ(Survey Research)

การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์(Historical Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ ใช้ ข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีหลักฐานปรากฏอยู่
จำแนกตามลักษณะ (ความลึก/ความกว้าง)ของข้อมูล
การวิจัยเชิงคุณภาพ(Qualitative Research) เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล จากตัวแปรที่มีลักษณะเป็นข้อความที่บรรยายลักษณะ
การวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research) เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล จากตัวแปรที่มีลักษณะเป็นตัวเลขที่ระบุระดับความมาก/น้อยของปรากฏการณ์ตามเกณฑ์ที่กำหนดให้
จำแนกตามประโยชน์ที่ได้รับหรือเหตุผลในการวิจัย
การวิจัยการนำไปใช้ (Applied Research) เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ในผลการวิจัยพื้นฐานมาใช้ประโยชน์
การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์ ((Basic Research or Pure Research) เป็นการแสวงหาความรู้ความจริงเชิงทฤษฎี

การจัดกระทำข้อมูล

การสรุปผลการวิจัยและเขียนรายงาน
Output เป็นขั้นตอนที่นำผลจากการขั้นตอนที่ได้จากขั้น Processing มาเขียนเป็นรายงาน หรือเสนอในรูปแบบของตารางหรือแผนภูมิต่าง ๆ
Processing เป็นขั้นตอนของการจัดแบ่งประเภทของข้อมูล
Input เป็นการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์