Categories: All - เทคโนโลยี - ศาสนา

by 26 กมลรัตน์ แซ่บุญ 3 years ago

653

อารยธรรมญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นในยุคกลางมีการปกครองโดยระบอบศักดินา ตระกูลมินะโมะโตะเริ่มต้นการปกครองโดยโชกุนและส่งต่ออำนาจให้ตระกูลโฮโจและอะชิคะงะ ยุคนี้เป็นยุคเฟื่องฟูของซามูไรที่มีแนวคิดบูชิโดเกี่ยวกับความกล้าหาญและเกียรติยศ ชาวโปรตุเกสเริ่มเข้ามายังญี่ปุ่นพร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาคริสต์และเทคโนโลยีปืน การลอบสังหารโชกุนนำไปสู่สงครามกลางเมืองยาวนาน 100 ปี การบุกของกองทัพมองโกลถูกขัดขวางโดยพายุคามิกาเซะ ยุคโคะฟุงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีนผ่านทางเกาหลี ญี่ปุ่นใช้ตัวอักษรจีนเป็นตัวกลางในการสื่อสารและพัฒนาระบบการปกครองตามแบบจีนในยุคอาสึกะ

อารยธรรมญี่ปุ่น

อารยธรรมญี่ปุ่น

ยุคที่สาม (ยุคใหม่)

ยุคปัจจุบัน
ยุคเรวะ

การแพร่ระบาดของ COVID-19

จักรพรรดินารุฮิโตะ ขึ้นครองราชย์

ค.ศ. 2019-ปัจจุบัน

ยุคเฮย์เซย์

ค.ศ. 2019 จักรพรรดิอะกิฮิโตะ ได้ทรงสละราชสมบัติ

ค.ศ. 2018 จักรพรรดิผู้ครองราชย์ได้ประกาศความกังวลเรื่องสุขภาพที่ลดลงและเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มีการออกกฎหมายอนุญาตให้สละราชสมบัติ

กลายเป็นประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีและการท่องเที่ยว

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต้ขึ้นครองราชย์

ค.ศ. 1989-2019

ยุคโชวะ

ญี่ปุ่นเข้าร่มสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายอักษะ และเป็นประเทศผู้แผ้สงคราม

ค.ศ. 1941 เกิดสงครามแปซิฟิก

ค.ศ. 1937สงครามญี่ปุ่น-จีน (นิจจูเซ็นโซ)

ค.ศ. 1931 กบฏแมนจู(แมนจูจิเฮ็น)

สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต ได้เสด็จครองราชย์

ค.ศ. 1926-1989

ยุคไทโช

ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมสงครามโลกเนื่องจากได้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับประเทศอังกฤษไว้เมื่อปี ค.ศ. 1902 และได้รับชัยชนะในที่สุด

สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช ได้เสด็จขึ้นครองราชย์

ค.ศ. 1912-1926

ยุคเมจิ

ญี่ปุ่นได้จัดการให้เกาหลีเป็นดินแดนในอารักขา และผนวกเกาหลีในปี ค.ศ. 1910

ค.ศ. 1904 สงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย (นิจิโรเซ็นโซ) และสามารถยึดครองเกาะแซคคาลินตอนใต้มาครอบครอง

ค.ศ. 1894 สงครามจีน-ญี่ปุ่น (นิชชินเซ็นโซ) ทําให้ญี่ปุ่นยึดครองไต้หวัน

มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ค.ศ.1889) ตลอดจนตั้งคณะรัฐมนตรี และสถาบันนิติบัญญัติระบบสองสภา ยกเลิกการแบ่งชนชั้นแบบเก่าของสมัยศักดินา (ค.ศ.1867)

เปลี่ยนชื่อเมืองหลวงเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่า "เมืองหลวงตะวันออก"

ย้ายเมืองหลวงจากกรุงเกียวโตไปอยู่ที่เมืองเอโดะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลระบบศักดินาที่ผ่านมา

ญี่ปุ่นทำการปรับปรุงตนเองขนานใหญ่ให้ทัดเทียมประเทศตะวันตก การสร้างสรรค์ประเทศให้เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยอุตสาหกรรม พัฒนาสถาบันทางการเมืองและรูปแบบของสังคมแบบใหม่ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษ

สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิขึ้นครองราชย์

ค.ศ. 1868-1912

ยุคใกล้
ยุคเอโดะ

ความกดดันแห่งกระแสทางสังคมและการเมือง ซึ่งกัดกร่อนรากฐานของโครงสร้างระบบศักดินาทีละน้อย จนกระทั่งระบบศักดินาของโชกุนโตกุงาวะ ได้สิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1867 และได้ถวายอำนาจอธิปไตยทั้งมวลคืนพระจักรพรรดิในการปฏิรูปเมจิ (Meiji Restoration)

ค.ศ. 1853 พลเรือจัตวา แมทธิว ซี เพอร์รี แห่งสหรัฐอเมริกา นำกองเรือ 4 ลำ “เรือดำ (คุโระฟุเนะ)” เข้ามาในอ่าวโตเกียว และประสบความสำเร็จในการชักจูงให้ญี่ปุ่นลงนามในสนธิสัญญาสัมพันธไมตรีกับประเทศสหรัฐอเมริกา

ญี่ปุ่นปิดประเทศ 265 ปี โชกุนโทะกุงะวะได้ออกคำสั่งห้ามเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น ห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศญี่ปุ่น คงเหลือแต่ให้ค้าขายได้เล็กน้อยที่เกาะเดจิมะเท่านั้น

เป็นจุดแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ย้ายเมืองหลวงจาก เกียวโต มาเอโดะ(Edo) หรือโตเกียวในปัจจุบันนี้

อิเอยาสึชนะในศึกสงครามก็ได้รวบรวมประเทศเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง

ค.ศ. 1600-1868

ยุคนี้ประเทศญี่ปุ่นมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติมากขึ้น โชกุนและไดเมียวถือเป็นผู้ที่ไม่มีอำนําจทางการปกครอง

ยุคที่สอง (ยุคกลาง)

ยุคศักดินาญี่ปุ่น
ยุคอาสึจิ-โมยามะ

สงครามเซคิกาฮาระ (ผลพวงจากยุคเซนโกกุที่แม่ทัพทั้งหลายรบกัน)

ค.ศ. 1568-1600

ยุคมุโรมาจิ (นัมโบคุและเซ็นโกคุ)

ค.ศ. 1441 เกิดการลอบสังหารโชกุนขึ้น ทำให้การปกครองระบอบโชกุน เสื่อมถอยลง และเกิดเป็นสงครามกลางเมื่องที่กินระยะเวลาถึง 100 ปี

ชาวโปรตุเกส เป็นชาวตะวันตกกลุ่มแรกได้เริ่มเข้ามาสู่ญี่ปุ่น พร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาคริสต์และเทคโนโลยี “ปืน”

ตระกูลอะชิคะงะได้ขึ้นเป็นตระกูลโชกุน ตั้งรัฐบาลทหารมูโรมาจิ

ค.ศ. 1333-1568

ยุคคามาคุระ

กองทัพมองโกลได้บุกตอนเหนือของเกาะคิวชูถึง 2 ครั้ง เจอพายุใหญ่ซัดกองเรือจมทะเล พายุดังกล่าวได้รับการขนานนามจากผู้คนว่า “Kamikaze” ความหมายคือ “ลมแห่งพระเจ้า”

ค.ศ. 1213 อำานาจการปกครองก็ตกไปอยู่ในมือของตระกูลโฮโจแทน

แนวคิดเรื่องความกล้าหาญและการรักในเกียรติยศ (bushido) ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของซามูไร เป็นยุคที่ซามูไรเฟื่องฟู

อำนาจการปกครองตกอยู่ในตระกูลมินะโมะโตะ(Minamoto) เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองโดยระบอบศักดินา ภายใต้การปกครองของโชกุน

ค.ศ. 1185-1333

ยุคคลาสสิก
ยุคเฮอัน

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 อำนาจการปกครองตกไปอยู่ในมือของตระกูลฟุจิวะระ เกิดการต่อสู้ของตระกูลนักรบต่างๆเพื่อแย่งชิงอานาจ

สิ่งญี่ปุ่นรับมาจากภายนอกค่อยๆ กลายเป็นรูปแบบของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย อารยธรรมญี่ปุ่นเริ่มที่จะมีลักษณะและรูปแบบเป็นของตนเอง เป็นยุคคลาสสิคของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโดยแท้

ย้ายเมืองหลวงไปเฮอันเกียว (เกียวโต ในปัจจุบัน)

การล่มสลายของยุคนะระ อำนาจในการบริหารประเทศ มาสู่ขุนนางในราชสำนัก โชกุน ทหาร และนายกรัฐมนตรีในปัจจุบันในที่สุด

ค.ศ. 794-1185

ยุคนะระ

สร้างพระพุทธรูปไดบุซซึทึี่วัดโทไดจิ

เกิดบันทึกประวัติศาสตร์เล่มต่อมาชื่อ“นิฮอนโชะคิ”

เกิดบันทึกประวัติศาสตร์เล่มแรกชื่อ“โคะจิคิ”

ตั้งเมืองหลวงถาวรแห่งแรกของญี่ปุ่น เฮโจเกียว (ซึ่งเป็นเมืองที่สร้างเลียนแบบมาจากเมืองฉางอาน เมืองหลวงของประเทศจีน)

ค.ศ. 710-794

ยุคอาสึกะ

ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 6 ส่งทูตไปจีนในช่วงราชวงศ์สุ่ย ญี่ปุ่นจึงได้รับถ่ายทอดนวัตกรรมจากแผ่นดินใหญ่มามาก

ถือระบบการปกครองของจีนเป็นแนวทางในการสร้างระบบการปกครองของตน

ศูนย์กลาง ตั้งอยู่ในอะซึกะ จังหวัดนะระ

ค.ศ. 538-710

ยุคโคะฟุง

มีการติดต่อระหว่างญี่ปุ่นกับอาณาจักรบนคาบสมุทรเกาหลี

ความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์ การใช้ปฏิทินและดาราศาสตร์

ญี่ปุ่นได้รับเอาตัวอักษรแบบจีนซึ่งมีรากฐานมาจากอักษรภาพมาใช้ เป็นตัวกลางในการสื่อสาร

วัฒนธรรมจีนรวมทั้งลัทธิขงจื๊อและศาสนาพุทธได้เผยแพร่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นผ่านทางเกาหลี

มีศูนย์กลางอยู่ที่ที่ราบยะมะโตะ (ใกล้จังหวัดนะระในปัจจุบัน)

ตั้งชื่อตามสุสานที่นิยมสร้างขึ้นกันในยุคนี้

การปกครองแบบโชกุนเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นนและลดทอนอำนาจของจักรพรรดิลง เป็นยุคเริ่มสมัยระบบศักดินาของญี่ปุ่น

ยุคแรก (ยุคโบราณ)

ยุคยะโยอิ (Yayoi period)
พระนางฮิมิโกะ ผู้ครองอาณาจักรยามาไท ส่งเครื่องบรรณาการไปยังเมืองเว่ย ของจีน
ศาสนาสมัยแรกของชาวญี่ปุ่นคือ ชินโต หรือ “ทางของเทพเจ้า” เป็นศาสนาที่สักการบูชาเทพเจ้า
เจ้าเมืองแผ่นดินวา ได้รับตราประจำตำแหน่งทำด้วยทอง เขียนไว้ว่า “เจ้าเมืองแผ่นดินวาของฮั่น” หลังจากส่งเครื่องบรรณาการให้แก่ฮ่องเต้เมืองฮั่น
ชาวจีนเรียกแผ่นดินญี่ปุ่นว่า แผ่นดินของวา (วา แปลว่า แคระ) ในบันทึกของราชสำนักจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น
การอพยพเข้ามาของคนจากผืนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มเรียนรู้การเพาะปลูกข้าว เครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และเหล็ก
ช่วงเวลาประมาณ 300 ก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 250
คำว่ายะโยอินั้นได้มาจากแขวงหนึ่งในเขตบุงเกียว กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่ค้นพบร่องรอยเกี่ยวกับยุคนี้
ยุคโจมง (Jomon period)
ก่อนคริสต์ศักราชเรียกว่า สมัยโจมง ตามรูปแบบเครื่องปั้นดินเผาที่มีลวดลายดังกล่าว
มีการผลิตภาชนะเครื่องปั้นดินเผาโจมงจะมีเอกลักษณ์ตรงที่มีลวดลายเป็นเชือกที่สวยงาม
ล่าสัตว์โดยใช้คันธนูและลูกธนู
มีการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินด้วยความประณีต
เกิดหมู่เกาะญี่ปุ่น
เกิดในช่วงประมาณ 10,000 - 300 ปีก่อนคริสตกาล
ยุคหิน(Paleolithic Age)
ยุคนี้ยังคงดำรงเรื่อยมากระทั่งสิ้นสุดยุคน้ำแข็งสุดท้าย
หาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ และเก็บของป่ามาเป็นอาหาร
ญี่ปุ่นยังเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่
พบว่ามีผู้อาศัยอยู่บนหมู่เกาะญี่ปุ่นกว่า 100,000 ปีมาแล้ว