Kategoriak: All - สารสนเทศ - รายงาน - วิจัย - วิทยานิพนธ์

arabera มณีกาญจน์ ตั้งสุทธิวงษ์ 5 years ago

319

การเขียนรายงานวิชาการ

การเขียนรายงานวิชาการเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความระมัดระวังในการเรียบเรียงและนำเสนอเนื้อหา ประเภทของรายงานวิชาการสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น รายงานวิจัย ภาคนิพนธ์ และวิทยานิพนธ์ รายงานวิจัยมักเป็นผลของการค้นคว้าของนักวิชาการและนักวิจัย ในขณะที่ภาคนิพนธ์เป็นเอกสารที่มีรายละเอียดลึกซึ้งมากขึ้นและใช้เวลาหนึ่งภาคการศึกษาในการจัดทำ วิทยานิพนธ์เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและเป็นผลของการค้นคว้าวิจัยเช่นกัน ขั้นตอนการเขียนรายงานวิชาการรวมถึงการจัดทำเค้าโครงรายงาน การรวบรวมบรรณานุกรม และการเรียบเรียงรายงานอย่างมีระเบียบ การประเมินและวิเคราะห์สารสนเทศเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้รายงานมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ การทำรายงานวิชาการช่วยพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีเหตุผลและการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังเสริมสร้างทักษะในการเขียนและสร้างสรรค์ผลงานวิชาการอื่นๆ ในอนาคต การทำรายงานยังเป็นการเพิ่มพูนองค์ความรู้ใหม่และทำให้เกิดพัฒนาการทางวิชาการในสาขาต่างๆ

การเขียนรายงานวิชาการ

การเขียนรายงานวิชาการ

ส่วนประกอบของรายงาน

ปีการศึกษา
ชื่อสถาบันการศึกษา
ชื่อสำนักวิชา
ชื่อวิชา
ชื่อ-นามสกุล และเลขรหัส
ชื่อของรายงาน

ประเภทรายงาน

4. รายงานวิจัย (Research)
เป็นรายงานผลการค้นคว้าวิจัยของอาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย เป็นการศึกษาค้นคว้าลักษณะเดียวกับการทำวิทยานิพนธ์
3. วิทยานิพนธ์ (Thesis/Dissertation)
เป็นรายงานผลของการค้นคว้าวิจัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา
2. ภาคนิพนธ์ (Term paper)
ใช้เวลา 1 ภาคการศึกษา
มีรายละเอียดลึกวึ้งมากกว่า
มีลักษณะเช่นเดียวกับรายงาน
1. รายงานวิชาการ (Reports)
ทำเป็นกลุ่มหรือรายบุคคล
ผู้ทำรายงานอาจะเลือกหัวข้อที่สนใจเองหรือผู้สอนเป็นผู้กำหนดให้
ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อเสริมเนื้อหาที่เรียนในรายวิชาใดรายวิชาหนึ่งในแต่ละภาคการศึกษา
ศึกษาค้นคว้าและนำมาเรียบเรียงอย่างมีระเบียบ

ประโยชน์ของการทำรายงาน

เพิ่มพูนทักษะในการเขียนรายงานทางวิชาการ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์ผลงานวิชาการอื่นๆ ต่อไป
ทำให้เกิดการรู้จักใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล และสร้างทักษะในการแก้ไขปัญหา
ช่วยให้ทราบข้อมูลที่แท้จริง รวมทั้งข้อบกพร่อง
ทำให้มีพัฒนาการทางวิชาการในสาขาวิชาต่างๆ
ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และข้อเท็จจริงใหม่ๆ

ขันตอนการเขียนรายงาน

การเรียบเรียงรายงาน
การจัดทำโครงเรื่องครั้งสุดท้าย
การใช้สารสนเทศจากแหล่งต่างๆ
อ่านและจดบันทึก
รวบรวมบรรณานุกรม
จัดทำเค้าโครงรายงาน
อ่านข้อมูลของเนื้อหาเพื่อเป็นพื้นความรู้+กำหนดวัตถุประสงค์
เลือกและกำหนดหัวข้อการทำรายงาน

ความหมาย

สิ่งพิมพ์ที่เรียบเรียงอย่างมีระระเบียบ จากการศึกษาต้นคว้า การทดลอง การสังเกตการณ์ การสำรวจ การสัมภาษณ์ เป็นต้นอาจจะเขียนขึ้นเพื่อประกอบการศึกษาค้นคว้าสำหรับวิชาใดวิชาหนึ่ง

ขั้นตอนการทำรายงาน

เรียบเรียงและนำเสนอรายงาน
ประเมิน วิเคราะห์ และสังเคาะห์สารสนเทศ
สืบค้นสารสนเทศในระบบมือ ใช้ IT เป็นเครื่องมือ
เลือกแหล่งและทรัพยากรสารสนเทศ
คิดคำสำคัญ คำค้น
วางโครงร่างของเนื้อหา
กำหนดชื่อเรื่อง

เรียงลำดับส่วนประกอบของรายงาน

บรรณานุกรม
เรียงตามตัวอักษร ก-ฮ หรือ A-Z
เป็นรายชื่อเอกสารที่นำมาเขียนรายงานทั้งหมด
เนื้อหา
บทสรุปในแต่ละหัวข้อ
เรื่องที่นำมาประยุกต์ใช้
โครงสร้าง การทำงาน
องค์ประกอบ ส่วนประกอบ
ประวัติความเป็นมา หรือภูมิหลัง
ความหมาย หรือนิยาม
สารบัญ
ทำเช่นเดียวกับสารบัญภาพ
บอกภาพทุกภาพที่ปรากฎอยู่ในรายงานว่า่อยู่หน้าไหนบ้าง
มีหัวข้อหลักๆ ที่สำคัญๆของแต่ละบทปรากฎด้วย
เริ่มนับตั้งแต่หน้าแรกของเนื้อหา
กิตติกรรมประกาศ
ส่วนใหญ่พบในรายงานการวิจัย/วิทยาพนธ์
เป็นหน้าที่ใช้กล่าวขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุน ผู้ที่ให้ข้อมูลต่างๆ ตลอดจนผู้ที่เป็นกำลัง ในการทำรายงานชิ้นนั้นๆ
คำนำ
ในตอนท้ายจะลงชื่อผู้จัดทำ และวันที่ ที่เขียนคำนำ
ส่วนใหญ่มี 2 ย่อหน้า ย่อหน้าที่ 2 จะบอกความคาดหวังในการทำรายงาน
อาจจะบอกเนื้อหาคร่าวๆ
บอกขอบเขต และวัตถุประสงค์