หลักการเขียนอ้างอิงและบรรณานุกรม
การอ้างอิงเอกสาร
บรรณานุกรม
รายชื่อเอกสารที่ผู้เขียนใช้ศึกษาค้นคว้าในการเรียบเรียงรายงานเรื่องนั้นๆ ทั้งที่ได้เขียนรายการอ้างอิงไว้ในส่วนเนื้อเรื่องและเอกสารที่ไม่ได้ใช้อ้างอิงในส่วนเนื้อเรื่องแต่ได้อ่านประกอบเรียบเรียงแล้วนำมาใส่ไว้ท้ายรายงาน
เอกสารอ้างอิง
เขียนรายการอ้างอิงไว้ในส่วนเนื้อเรื่องเท่านั้น
การบอกแหล่งที่มาของข้อมูลที่ผู้เขียนนำมาใช้อ้างอิง
ในการเขียนผลงาน
อ้างอิงเอกสารส่วนท้ายเรื่องหรือท้ายรายงาน
อ้างอิงในส่วนเนื้อเรื่อง
การเขียนบรรณานุกรมท้ายเล่มเอกสารหรือรายงาน
การลงสำนักพิมพ์หรือผู้จัดพิมพ์
ในกรณีที่ไม่ปรากฏชื่อสำนักพิมพ์หรือโรงพิมพ์ให้ระบุคำว่า
ม.ป.พ. หรือ n.p. (No Publisher) โดยระบุไว้ในเครื่องหมาย [ ]
ห้ามใส่คำว่า สำนักพิมพ์ หรือ Publisher
การลงสถานที่พิมพ์
ถ้าไม่ปรากฏชื่อเมืองให้ใส่ ม.ป.ท. หมายถึง ไม่ปรากฏสถานที่พิมพ์หรือ n.p. (no place) แทน โดยใส่ในเครื่องหมาย [ ]
การลงครั้งที่พิมพ์
ภาษาอังกฤษให้ใช้ตัวย่อ ed.
ใส่ครั้งที่พิมพ์ตั้งแต่ครั้งที่ 2 เป็นต้นไป
การลงชื่อหนังสือหรือชื่อเรื่อง
ชื่อหนังสือที่เขียนเป็นภาษาไทยแต่ชื่อเรื่องเป็นภาษาอังกฤษให้ถอดคำเป็นภาษาไทยก่อนแล้วจึงใส่ชื่อภาษาอังกฤษไว้ในวงเล็บ
ชื่อเรื่องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้ใส่เฉพาะชื่อภาษาไทย
การลงปีที่พิมพ์
ถ้าไม่พบปีที่พิมพ์ให้ใส่ ม.ป.ป. หรือ no date ไว้ในวงเล็บ [ ]
ให้ระบุเฉพาะตัวเลข ไว้ในเครื่องหมาย ( ) เสมอ
การลงชื่อผู้เเต่ง
ผู้แต่งเป็นนิติบุคคล
เว้นวรรคจากหน่วยงานใหญ่คั่นด้วยเครื่องหมาย . ตามด้วยหน่วยงานย่อย
นามแฝง
ถ้าทราบชื่อจริงให้วงเล็บต่อท้ายแต่ถ้าไม่ทราบให้วงเล็บไว้ว่า นามแฝง
ผู้แต่งมากกว่า 6 คน
ระบุชื่อคนที่ 1-6 จากนั้นให้ใช้คำว่า และคณะ หรือคนอื่นๆ (ภาษาอังกฤษ)
ผู้แต่ง 3-6 คน
ระบุชื่อคนแรกไปจนถึงคนที่ 5 จึงเชื่อมด้วยคำว่า และ
ผู้แต่ง 2 คน
ใช้คำว่า และ หรือ and เชื่อม
ผู้แต่ง 1 คน
ไม่ต้องใส่คำนำหน้าของผู้แต่ง
สำหรับหนังสือทั่วไป
ชื่อผู้เเต่ง.(ปีที่พิมพ์).ชื่อเรื่อง.ครั้งที่พิมพ์(ครั้งที่2เป็นต้นไป).สถานที่พิมพ์:สำนักพิมพ์
บรรณานุกรมจากเครืองข่ายอินเทอร์เน็ต
ชื่อผู้เเต่ง.(ปีที่พิมพ์).ชื่อเอกสารออนไลน์.ค้นเมื่อ,ว/ด/ป(ที่ค้น) จาก +URL เว็บไซต์ที่พบข้อมูล
การเรียงลำดับบรรณานุกรม
เอกสารผู้แต่งที่เป็นสถาบัน สมาคม หน่วยงาน ให้เรียงตามลำดับอักษรตัวแรก ของชื่อสถาบันที่สะกดเต็ม โดยเรียงไปทีละลำดับตั้งแต่หน่วยงานใหญ่ถึงหน่วยงานย่อย
ถ้าชื่อผู้แต่งเหมือนกันให้เรียงตามอักษรของชื่อต้นและชื่อกลาง
ถ้าเรียงงานหลายงานที่มีชื่อผู้แต่งคนแรกเหมือนกัน
ถ้าผู้แต่งคนแรกซ้ำกัน ให้เรียงตามชื่อผู้แต่งคนต่อมา
ให้เรียงรายการที่มีผู้แต่งคนเดียวมาก่อนรายการที่มีหลายคน
ถ้ามีภาษาอังกฤษกับภาษาไทยให้เรียงแยกกันโดยให้เรียงภาษาไทยมาก่อนเสมอ
เรียงลำดับตามลำดับอักษรตัวแรกของรายการที่ปรากฎ (ก-ฮ, A-Z)
การโจรกรรมทางวรรณกรรมผลงานตนเอง
แนวทางหลีกเลี่ยง
อ้างอิงงานเดิมไว้ในอ้างอิงหรือบรรณานุกรมท้ายงานใหม่
ต้องให้แน่ใจว่าไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้ใด
แสดงข้อเท็จจริงทั้งหมด อ้างไว้ในบทนำ ว่างานใหม่นั้นหรือส่วนของงานใหม่ได้รวมงานเดิมไว้ด้วยอย่างไร
ความหมาย
การนำเอางานส่วนใหญ่หรืองานทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดของตนเองมาทำเป็นงานใหม่โดยไม่ได้แจ้งให้ชัดเจน บทความ ส่วนใหญ่มักเป็นบทความตีพิมพ์ซ้ำ
บรรณานุกรมบทความจากวารสาร
ชื่อผู้เขียนบทความ.(ปีที่พิมพ์).ชื่อบทความ.ชื่อวารสาร,ปีที่(ฉบับที่),เลขหน้าที่ปรากฏ.
การโจรกรรมทางวรรณกรรม หรือ การขโมยความคิด
ความไม่สุจริตทางวิชาการ หรือการฉ้อฉลทางวิชาการ และผู้ที่กระทำ ผิดจะต้องถูกตำหนิทางวิชาการ
การลอกงานเขียน ความคิดหรืองาน สร้างสรรค์ดั้งเดิมทั้งหมดหรือบางส่วนที่เหมือนหรือเกือบเหมือนงานดั้งเดิมของผู้อื่นมาแอบอ้างเป็นงานดั้งเดิมของตน